บทที่ 8 EPISODE 01 เริ่มด้วยทักทาย ลงท้ายด้วยจูบ [4]

“เราจูบกันแล้ว นายเลิกมองฉันเป็นคนแปลกหน้าได้รึยัง”

นี่คือวิธีเข้าหาคนอื่นของเธอเหรอ ใครสั่งใครสอนมาวะ

“หรือนายจะเรียกร้องค่าเสียหาย อยากได้เท่าไหร่ก็ว่ามา ฉันพร้อมเปย์”

ในขณะที่ผมยังไม่ได้พูดสักคำ เธอก็ยังคงเอาแต่พูดเองเออเองอยู่ฝ่ายเดียวไม่หยุด หนำซ้ำยังกำลังล้วงเงินออกมาจากหน้าอกของตัวเอง ยื่นมาให้ผมอีกต่างหาก พอผมไม่รับเธอก็วางไว้บนโต๊ะใกล้ๆ โดยเอาแก้วเหล้าที่เธอเพิ่งจะวางเมื่อครู่ทับไว้อีกที

ผมมองการกระทำของเธอด้วยความเดือดดาลในอก ดูก็รู้ว่าเธอกำลังยั่วโมโหผม ตอนนี้หากผมทำอะไรลงไปก็คงไม่พ้นถูกจับโยงกับประเด็นคลิปคราวก่อน และนี่น่าจะเป็นแผนการของเธอตั้งแต่แรก

หรือว่าเธอจะเป็นเพื่อนของพลอย แต่ถ้าเป็นเพื่อนพลอย ทำไมผมไม่เคยได้ยินพลอยพูดถึงเธอเลย

“ไม่พอเหรอ โทษทีนะ พอดีฉันพกเงินสดมาแค่นี้ เอาเป็นว่าฉันถอดนี่มัดจำไว้ให้นายมั่นใจแล้วกัน อยากให้นายลองเก็บกลับไปคิดดูเรื่องที่จะยอมคบกับฉัน รับรองว่าเยอะกว่านี้ฉันก็ยอมจ่าย”

พูดจบเธอก็ถอดนาฬิกาข้อมือของเธอวางใกล้กัน แต่ไม่ทันที่เธอจะได้ปล่อยมือออกจากนาฬิการาคาแพงของเธอ ผมก็คว้าข้อมือข้างนั้นของเธอไว้แล้วดึงเธอเข้าหาตัวทันที

“เธอจ่ายหนักแบบนี้ ฉันคงต้องคิดดูจริงๆ แล้วสิ” ผมกระตุกยิ้มบ้าง บางทีผู้หญิงร้ายๆ อย่างเธอก็ต้องเจอกับผู้ชายเลวๆ อย่างผมนี่แหละถึงจะสมน้ำสมเนื้อ

แวบหนึ่งตอนผมบอกว่าผมเริ่มสนใจข้อเสนอของเธอ กลับดูเหมือนว่าเธอจะตกใจนิดหน่อย

“ถ้าฉันตกลง หมายความว่าเราเป็นแฟนกันเลยใช่ไหม” ผมแกล้งโน้มใบหน้าลงไปกระซิบถามใกล้ๆ ตั้งใจจะใช้ลมหายใจอุ่นๆ กำราบเธอสักหน่อย

“ชะ ใช่” จากคนพูดจาฉะฉาน พอผมตอบตกลง เธอก็ดันเสียความมั่นใจไปเฉยเลย

ผมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาที่เริ่มสั่น ข้อมือของเธอเย็นเฉียบ มีอาการกลืนน้ำลายบ่อยๆ เพราะกำลังประหม่าและน่าจะเริ่มกลัวผม ทั้งที่ควรจะกลัวตั้งแต่แรก

แต่เชื่อไหมว่าบนใบหน้าสวยคมของเธอ ยังคงฉาบไปด้วยรอยยิ้มตบตาคนอื่น หนำซ้ำยังอวดดี กล้ายกมือขึ้นมาวางเบาๆ บนหน้าอกของผมทั้งที่มันสั่นจนควบคุมไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ

“ก็ดี งั้นขอจูบอีกที เมกชัวร์”

“อื้อ”

ผมไม่อยากฟังเธอพล่ามอะไรยืดยาว จำได้กว่าก่อนที่เรื่องจะมาจบแบบนี้ ผมหยิบยื่นโอกาสให้เดินออกไปหลายครั้ง แต่เหมือนเธอจะอยากลองดี งั้นก็ให้เธอได้ลองดูสักหน่อยก็แล้วกัน

หัวใจของเธอเต้นดังมากเมื่อผมเป็นฝ่ายรุกไล่ บางทีก่อนหน้านี้เธออาจเข้าใจผิดเรื่องจูบ เพราะตอนที่เธอเริ่ม มันก็แค่ริมฝีปากแตะกันเท่านั้น ซึ่งผมไม่เรียกอะไรแบบนั้นว่าจูบหรอก จูบของจริงมันต้องแบบที่ผมกำลังทำอยู่ต่างหาก แบบที่เขาเรียกกันว่า...แลกลิ้น

“อื้อออ”

เสียงครางในลำคอของเธอไม่ได้ทำให้ผมใจอ่อนหรือยอมปล่อย แต่กลับยิ่งดูดแรงขึ้นจนรู้สึกได้ว่าเธอกำลังค่อยๆ อ่อนแรงลงในอ้อมแขน ยิ่งเห็นว่าเธอเปลี้ยลงเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งตักตวงความหวานจากโพรงปากของเธอมากขึ้นเท่านั้น รสชาติแอลกอฮอล์ในโพรงปากของเธอมอมเมาจนยากจะหยุด

“มะ มังกร” เสียงกระเส่าแบบนี้ต่างหากที่น่าฟัง ไม่ปลอมแบบที่เธอพยายามทำเมื่อครู่ ใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางแดงจัดขึ้นทันตาเห็น หอบหายใจถี่จนน่าสงสาร แต่ก็แค่แวบเดียวที่ผมรู้สึกแบบนั้น ตอนนี้ในใจผมกำลังสงสัยว่าก่อนจะเดินมาหาผมเธอดื่มไปแค่ไหนถึงได้เมาจนกล้าทำอะไรขาดสติขนาดนี้

“ยัยเพิร์ล”

เพื่อนของเธอพากันวิ่งออกมา สีหน้าของทุกคนดูตื่นตระหนกเพราะคงมองอกแล้วว่าตอนนี้คนคุมเกมคือผม ไม่ใช่เพื่อนของพวกเธออย่างในตอนแรก

“โทษทีนะมังกร ยัยเพิร์ลมันเมาน่ะ นายอย่าไปถือสามันเลยนะ”

หนึ่งในสามรีบแก้ตัวแทน แต่วินาทีนี้ต่อให้พวกเธอจะอ้างเหตุผลอะไร ก็หยุดความคิดของผมไม่ได้แล้ว

“ดื่มไปเท่าไหร่” ผมถามเสียงเรียบและยังคงโอบเพิร์ลเอาไว้ในอ้อมแขน

ผู้หญิงสามคนนั้นมองหน้ากันเลิ่กๆ เหมือนจะไม่แน่ใจหรือไม่ก็กำลังเกี่ยงกันอยู่ว่าใครจะเป็นคนตอบ

“สะ สี่ขวด”

ยอมใจในความใจสู้และทักษะการทรงตัว เพราะถ้าเป็นผู้หญิงปกติคงร่วงไปตั้งแต่ยืนเฉยๆ แล้ว แต่ยัยนี่ยังเดินได้ทั้งที่ใส่ส้นสูงอีกต่างหาก

ผมพ่นลมหายใจออกทางปากอย่างเบื่อหน่าย ก้มหน้าลงไปมองใบหน้าคนเมาอีกครั้ง ซึ่งก็ไม่ได้ดูมีสติขึ้นมาเลยสักนิด

“ปะๆ กลับบ้านกันเถอะยัยเพิร์ล แกเมามากแล้วนะเว้ย”

“ฉันไม่ได้เมา แค่รู้สึกมึนๆ เฉยๆ”

ปกติก็ไม่มีคนเมาที่ไหนยอมรับว่าตัวเองเมาอยู่แล้ว

“เดี๋ยวฉันไปส่งเพิร์ลเอง” ผมอาสา เพื่อนเธอแต่ละคนถึงกับตกใจ พากันทำตาโตใส่ผมกันหมด

ผมอยู่ของผมดีๆ เพื่อนของพวกเธอเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาผม ถ้าผมปล่อยไปง่ายๆ ก็อย่ามาเรียกผมว่ามังกร

บทก่อนหน้า
บทถัดไป